Popular Posts

Fruitvale Station : ตลอดไป อย่างไร?



(เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)

สร้างจากเรื่องจริงอันโด่งดังในปี 2009 เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ ออสการ์ แกรนท์ ชายวัย 22 ปี การความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม เหตุการณ์นี้สร้างปรากฏการณ์ครึกโครมในโลกโซเชียล เมื่อมีคนบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ และถูกเผยแพร่ให้เห็นถึงเหตุการณ์สุดเลวร้ายนี้

นี่คือผลงานกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวครั้งแรก ของผู้กำกับผิวสีหน้าใหม่อย่าง Ryan Coogler ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะ ไรอันพึ่งทำหนังสั้นมาแค่เพียง 4 เรื่องเท่านั้นก่อนมาจับงานกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวชิ้นนี้ และ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการกวาดรางวัลยอดเยี่ยมเกือบทุกงานเทศกาลที่หนังได้ฉาย

หนังถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Sundance Film Festival 2013 เมื่อเดือนมกราคม และสามารถคว้า 2 รางวัลใหญ่ของงานได้ในที่สุด คือ รางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม U.S. Grand Jury Prize: Dramatic และ รางวัลขวัญใจผู้ชม Audience Award: U.S. Dramatic ได้ หลังจากนั้น ทุกเวทีที่ Fruitvail Station เดินสาย ก็ล้วนได้รางวัลติดไม้ติดมือมาทั้งสิ้น (หนังสายเทศกาล แจ่มแจ๋ว)

ไรอัน คูเกลอร์ เป็นนักทำหนังมือใหม่ที่พึ่งเรียนจบจากวิทยาลัยศิลปะ ในวันที่แกรนท์ตาย ไรอันพึ่งจบการศึกษา เมื่อเขาทำหนัง เขาเลยอยากทำหนังเกี่ยวกับชีวิตของ ออสการ์ แกรนท์

"โลกต้องได้รู้เรื่องของออสการ์ แกรนท์ หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก มันจะไม่ใช่แค่ข่าวที่คุณได้อ่านบนหน้าหนังสือพิมพ์"

ไรอันได้พบกับโปรดิวเซอร์ค่ายหนังโดยบังเอิญ ขณะที่ตอนนั้น ฟอร์เรส วิธเทกเกอร์ ดาราผิวสีชื่อดังกำลังเฟ้นหาผู้ำกำักับเลือดใหม่อยู่ ไรอันเสนอโปรเจ็คของเขา และ ฟอร์เรสก็สนใจ เรื่องราวของ ออสการ์ แกรนท์ จึงถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด



สำหรับคนที่ไม่เคยทราบเหตุการณ์นี้มาก่อนหรือไม่ได้อ่านเรื่องย่อก่อนดู ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรนัก เพราะหนังหยิบเอา คลิปวิดิโออันโด่งดังมาให้เราดูตั้งแต่เริ่มต้นหนัง เหตุการณ์การจับกุม และ ถูกจ่อยิง ก่อนเข้าสู่เรื่องราวของชีวิต ออสการ์ แกรนท์

หนังครึ่งแรกพาเราไปดูชีวิตสุดปกติธรรมดาของออสการ์ แกรนท์ เขาไม่ใช่นักบุญ หรือ คนดีมากมายอะไรนัก เขาใช้ชีวิตผิดพลาดบ้าง เคยนอกใจ และ ถูกไล่ออกจากงาน แต่กระนั้นเขาก็รักครอบครัว เสียน้ำตาให้หมาถูกรถชน ช่วยเหลือคนแปลกหน้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ หนังครึ่งแรกปูให้เราเห็นว่า ออสการ์เป็น "คนใจดี" ขนาดไหน ทั้งที่เขาเองก็มีปัญหาส่วนตัวค่อนข้างมาก เพราะมีครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย

เราดูไปได้ครึ่งนึงจนแอบรู้สึกว่า "อืมม ... มันธรรมดาจริงๆนะ" แปลกใจนิดหน่อยที่หนังกวาดรางวัลเยอะมาก หนังดำเนินเรื่องธรรมดามาก แต่ที่น่าแปลกคือมันไม่น่าเบื่อเลย อาจเพราะการแสดงของ ไมเคิล บี จอร์แดน ที่ดูน่าติดตาม และนักแสดงคนอื่นๆที่แม้จะไม่มีฉากที่ต้องปรบมือชื่นชมกับฝีมือการแสดง แต่กลับทำให้เรารู้สึกคุ้นเคย และดูได้เพลินๆ




จนกระทั่ง ...

ฉากที่น่าจะเป็นไคลแม็กซ์ของเรื่อง คือ ฉากที่ ออสการ์ ถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แม้ ...
เราจะทราบมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่า ออสการ์จะถูกยิง แต่ฉากยิงนี้เอง คนดูแบบดิฉันถึงขั้นหลุดสะอื้นแล้วร้องไห้โฮจนต้องเอามือมาปิดปากกลั้นเสียงร้องเลยทีเดียว ... แล้วก็ร้องอยู่แบบนั้นจนกระทั่งจบซีน ... เป็นฉากที่น่ากลัว และ เลวร้ายจริงๆ

(คุณอาจไม่เชื่อเกจวัดน้ำตาอิฉัน เพราะรู้สึกว่าจะร้องแม่งทุกเรื่อง -*-)

อาจเรียกได้ว่า นี่เป็นหนังที่ไม่ไ่ด้มีการตั้ง องก์ 1 องก์ 2 องก์ 3 อะไรมาเลย หนังดำเนินเรื่องมาเอื่อยๆตลอดเรื่องแล้วก็ โป้งเดียวจอด! ตอนจบ

สิ่งที่ทำให้เคสการเสียชีวิตของออสการ์ โด่งดังเพราะว่า ในเหตุการณ์นั้น ออสการ์ไม่ได้เป็นผู้มีความผิดโดยตรง เขาและเพื่อนถูกคู่อริหาเรื่องในรถไฟฟ้าก่อนถึงสถานี Fruitvale แต่เมื่อตำรวจขึ้นมาสอบสวนบนรถไฟฟ้ากลับจับเขาและเพื่อนไปเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อไม่มีความยินยอม จึงเกิดการขัดขืน เพื่อนของเขาถูกตำรวจอัดและทำร้าย คนอื่นๆในบริเวณนั้นพยายามเข้ามาช่วย แต่เหตุการณ์กลับยิ่งบานปลาย จนกระทั่งออสการ์และเพื่อนถูกสั่งขัง ทั้งที่พวกตนเองไม่ใช่คนก่อเรื่อง แต่กลับถูกสั่งขัง ออสการ์จึงโพล่งออกไปว่า

เพราะพวกเขาเป็นคนดำใช่มั้ย?

นั่นทำให้ตำรวจใส่กุญแจมือเขา ทั้งที่เขาเป็นคนพยายามบอกให้เพื่อนๆอย่าใจร้อนก็ตามที ขณะที่เขาถูกใส่กุญแจมือ ตำรวจคนนึงก็ยิงเขาที่หลัง ..

ออสการ์ แกรนท์ เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 22 ปีในเช้าวันปีใหม่ ของปี 2009

ตอนเริ่มเรื่อง ออสการ์ สัญญากับภรรยาของเขาว่า "เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
ภรรยาของเขาถามกลับว่า "ตลอดไป ยังไง?"

ตลอดไป
เป็นคำที่ เปราะบางที่สุด
เพราะมันพร้อมถูกทำลายได้ทุกเมื่อ

นี่เป็นหนังที่ได้รับคำเยินยอจากทั่วทุกสารทิศว่า เป็นหนังที่ควรดู เพราะมันพูดถึงชีวิตคนธรรมดา ที่ไม่ได้มีภารกิจยิ่งใหญ่อะไร แค่ต้องใช้ชีวิต ดูแลครอบครัว แต่วันนึง ความตายกลับมาเยือนเขาแบบที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ เหตุการณ์ ของออสการ์ แกรนท์ กลายเป็นเคสตัวอย่างในอเมริกา มันเกิดปรากฏการณ์มากมาย เพื่อที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับออสการ์ เกิดขึ้นกับใครๆอีก

ตลอดไป





ตอนดูทีแรกรู้สึก อืม .. พนังธรรมดาจัง พอดูไปเรื่อยๆ อืม .. ทำไมแสดงดีกันจังฟะ คือ ไม่ได้แสดงใหญ่อะไรเลย แสดงธรรมดามาก แต่กลับดีมากดูคุ้นเคยและเป็นกันเองมาก touch สุดๆ

หนังได้รับ 28 รางวัล และ เข้าชิงอีก 12 รางวัล


< >

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมถึงกับอารมณ์ค้าง จบได้มาค้าประวัติในนี้><

    ตอบลบ