Popular Posts

[UCL] ROUND 16 :: 19-20 FEB :: 1ST LEG Bayer 04 Leverkusen - Paris Saint Germein

กลับมาเยือนเราอีกครั้ง กับ เทศกาล UEFA CHAMPION LEAGUE 2014
คราวนี้เราเดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่ง 16 ทีมสุดท้ายในปีนี้ ก็ได้หน้าใหม่(ที่เก่า)บางทีมกลับมาสร้างสีสันเพิ่มเติม บางทีมก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวซะ้ด้วย อร๊างงงง~ ในตอนนี้ะเขียนเกริ่นหัวถึงฟุตบอลอังกฤษก่อนนะคะ สัปดาห์หน้าค่อยเป็นฟุตบอลประเทศอื่น

เมื่อปีที่แล้วตอนที่ทีมฟุตบอลจากอังกฤษผ่านเข้ามาถึงรอบนี้แค่ 2 ทีมได้มีบทวิเคราะห์และการคาดการณ์ออกมามากมายว่า "หรือฟุตบอลอังกฤษจะมาถึงยุคตกต่ำเสียแล้ว?" เพราะแม้แต่ในระดับฟุตบอลทีมชาติเองก็ มาตรฐานลดลงอย่างน่าใจหาย บวกกับการที่สโมสรฟุตบอลจากอังกฤษ พากันตกรอบตัดเชือกกันไปหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้บ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง

ครั้งล่าสุดที่มีทีมฟุตบอลอังกฤษผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมพร้อมกัน 4 ทีมต้องย้อนไปตอนปี 2009 ซึ่งก่อนหน้านั้น อังกฤษก็รักษาสถิติ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมอย่างน้อย 3-4 ทีมมาตลอด จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลที่แล้วนี่เองที่พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบนี้ได้แค่ 2 ทีมจนตามมาด้วยคำถามว่า

"ฟุตบอลอังกฤษถึงยุคตกต่ำจริงหรือไม่"

Round 16 : UCL 2012-13

- สเปน (4) > รีล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเลนเซีย, มาลาก้า
- เยอรมัน (3) > บาร์เยิร์น มิวนิค,โบรุซเซีย ดอร์ทมุน, ชาลเก้ 04
- อังกฤษ (2) > อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- อิตาลี (2) > เอซี มิลาน,ยูเวนตุส
- โปรตุเกส (1) > ปอร์โต้
- สก็อตแลนด์ (1) > เซลติก
- ตุรกี (1) > กาลาตาซาราย
- ฝรั่งเศส (1) > ปารีส แซง แชกเมงก์
- ยูเครน (1) > ชักตาร์ โดเนสก์


ปีนั้น รอบชิงชนะเลิศคือ 2 ทีมยักษ์ใหญ่จาก บุนเดสลีกา



และเหมือนต้องการลบคำสบประมาทนั้นในปีนี้พวกเขา(อังกฤษ)กลับมาเป็นทีมเต็ง(ละมั้ง)อีกครั้ง
ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมพร้อมกัน 4 ทีมอีกครั้ง ...

- อังกฤษ (4) > แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, เชลซี
- เยอรมัน (4) > บาร์เยิร์น มิวนิค,โบรุซเซีย ดอร์ทมุน,ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน, ชาลเก้ 04
- สเปน (3) > บาร์เซโลน่า,รีล มาดริด, แอธเลติโก มาดริด
- ฝรั่งเศส (1) > ปารีส แซง เชกแมงก์
- กรีซ (1) > โอลิมเปียกอส
- ตุรกี (1) > กาลาตาซาราย
- รัสเซีย (1) > เซนิท เซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก
- อิตาลี (1) > เอซี มิลาน

ครั้งล่าสุดที่มีทีมจากอังกฤษผ่านเข้าสู่ Round 16 พร้อมกันคือในตอนปี 2009 ซึ่งครั้งนั้นคือ ฝันร้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาปราชัยต่อยอดทีมแดนคาตาลัน บาร์เซโลน่า "ฝันร้ายในกรุงโรม" คือสิ่งที่ชาวยูไนเต็ดยังคงจดจำมาจนถึงวันนี้




และ ครั้งล่าสุดที่ทีมจากอังกฤษผ่านเข้าสู่รอบนี้พร้อมกัน 4 ทีมแล้วมีทีมจากอังกฤษคว้าแชมป์ได้ก็ไม่ต้องย้อนไปไกล มันคือตอนปี 2008 ที่ทีมจากอังกฤษผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเจอกันเอง ปีนั้นเชลซีชนะลิเวอร์พูลมา ขณะที่แมนฯยูชนะบาเซโลน่าได้ และ กลายเป็นคู่ชิงชนะเลิศของ 2 ทีมจากอังกฤษ

ความดุเดือดในแมตนี้คือ นี่คือทีมแชมป์ลีกส์ และ ทีมรองแชมป์ ต้องมาไฝว้กันอีกครั้งในฟุตบอลรายการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

และปีนี้มันคือ "ปีดับฝันที่มอสโก" ของเชลซี .. เราได้เห็นน้ำตาของกัปตัน จอห์น เทอร์รี่ เขาลื่นล้มในตอนที่กำลังจะเหนี่ยวไกในตอนยิงจุดโทษชี้ขาด การพลาดจุดโทษในตอนนั้น โมเมนตัมถูกเหวี่ยงกลับมาหายูไนเต็ดทันที โรนัลโด้ยิงพลาดไปแล้วในลูกที่ 3 หากพวกเขาไม่พลาดเลย ก็อาจมีโอกาสชนะได้ และ เป็น อเนลก้าของเชลซี ที่พ่ายความกดดัน ยิงพลาดไปในลูกสุดท้าย บอลที่ส่งให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลายเป็นแชมป์เปี้ยน




ฝันร้ายของเชลซี แต่กลับเป็นปีที่แฟนยูไนเต็ดมีความสุขที่สุด พวกเขาได้ Triple Champions จาก 3 ฟุตบอลรายการใหญ่ ซึ่งนั่นก็เป็นครั้งล่าสุดที่ยูไนเต็ดทำทริปเปิ้ลแชมป์ได้อีกด้วย ...

และจนถึงวันนี้ วงการฟุตบอลได้เปลี่ยนแปลงไปแบบพลิกคว่ำคะมำหงาย
ปีนี้จะใช่ปีที่ฟุตบอลอังกฤษกลับมาผงาดอีกครั้งหรือไม่?





UEFA Champions League 2013/2014
Champions League Final Stages
19 / 02 / 2014


::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
Bayer 04 Leverkusen - Paris Saint Germein
Arena : BayArena
Group Stage : รองแชมป์กลุ่ม A ต้องมาเจอกับ แชมป์กลุ่ม C

เลเวอร์คูเซ่น ผ่านเข้าสู่รอบนี้ในฐานะรองแชมป์ แม้จะเป็นทีมอันดับต้นๆในลาลีกา แต่ก็กลับมาเสียแต้มให้กับยูไนเต็ดในรอบแบ่งกลุ่มแบบหมดรูป ด้วยสกอร์ทั้งไปทั้งกลับรวมกัน 9 ลูก ทำให้แม้จะผ่านเข้ามาได้ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม แต่สถานการณ์ก็ไม่สู้ดีนัก เพราะพวกเขาดันต้องมาเจอกับแชมป์กลุ่มที่นำทัพโดย "จอมโหด ซลาตัน"

เลเวอร์ฯมีแนวรับที่ไม่มั่นคงนัก จุดเด่นของพวกเขาคือ แนวรุกและเกมบุกสายฟ้าฟาดเปรี้ยง 1 ผู้เฒ่า 1 หนุ่ม 1 เคป๊อป แนวรุก 3 ตัวคือทีเด็ดของเลเวอร์คูเซ่น ณ เวลานี้ มารอดูว่าเขาจะต้านทานพายุสลาตันจาก ซลาตัน อิบราโมวิชได้หรือไม่

ปารีสฯ คงสถานะแชมป์กลุ่ม และ แชมป์ลีกด้วยในปัจจุบัน สถานการณ์ทีมยังค่อนข้างชิล ถึง ชิลมาก แม้ทีมจะขาดหอกแหลมเปี๊ยวอย่าง เอดิสัน คาวานี่ไป จากอาการบาดเจ็บ แต่การขาดคาวานี่ไม่ได้แปลว่าทีมจะเปลี่ยนแปลงอะไรนัก ปารีสฯยังคงยึดคติ "คิดไม่ออกบอกอิบรา" อยู่เหมือนเดิม ขาดคาวานี่ พวกเขาก็แค่ มีโอกาสยิงน้อยลง ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะแพ้ หรือ ยิงไม่ได้ซะเมื่อไหร่

คิดไม่ออก บอกซลาตัน จำคำนี้ไว้...
เดี๋ยวรู้เลย!!!





เป็นไปตามคาด เมื่อ เลเวอร์ฯจัด 3 แนวรุกหน้าเป็น ซง-คีสลิง-แซม เพราะ แนวรุกชุดนี้ เคยระเบิดประตูในลีกแบบจั๋งหนับมาแล้วหลายครั้งหลายหน กองหลังก็เน้นพี่เก๋าน้องเก๋าชุดที่เล่นชปล.แล้วยิง+แอสซิทกันบ่อยๆนั่นแหละ เมื่อเจอทีมใหญ่แบบปารีสฯ ฮูเปีย คงไม่พลาดที่จะจัดชุดใหญ่ ชุดโหดสุดเท่าที่มี ลงสนามในนัดนี้ หนำซ้ำ นี่มันเกมในบ้านด้วย อย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะได้เปรียบมั่งล่ะวะ ... (ใช่มั้ย?)

ทางด้านปารีสฯของ โลลองก์ ก็เป็นสไตล์ "ชิลไปนะ" มาถึงเยอรมันก็ไปซ้อมกันอย่างเฮฮาน่ารัก ชิลๆ นัดนี้ไม่มีคาวานี จึงเป็นทีของมัวร่าบ้าง ด้านแนวรับ ในรอบแบ่งกลุ่ม ติอาโก ซิลวาไม่ได้มีโอกาสลงเล่นเลย เนื่องจากอาการบาดเจ็บยาวตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่ในครั้งนี้เขาหายกลับมาช่วยทีมได้ระยะนึงแล้ว จึงกลับมาทวงตำแหน่งคืนจากมาควินยอสอย่างไม่ต้องสงสัย (คือตอนมาควินยอสอยู่ ก็ไม่ได้เล่นแย่เลย TT) ยังไม่นับว่า ปารีสฯพึ่งได้ โยฮัน กาบายมาอีกนะ


ครึ่งแรก : พึ่งเริ่มเกมไม่เ่ท่าไหร่ ยังไม่ได้ัทันได้จัดกระบวนทัพรับศึกมหายุทธ์จาก ออกญาซลาตัน มิคาดมันส่งขุนพลนั่งหลังม้าพร้อมหอกแหลม เข้ามาจ้วงแทงเราตั้งแต่เริ่มสงครามเสียแล้ว

ปารีสฯ เซตบอลทะลุช่องทำเกมบุกขึ้นมา มัธตุยดี้ วิ่งขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเพื่อนจะชิ่งทำทางให้สวยๆ บอลต่อไปให้มัธตูดี้ในระยะทำใจ อย่ากระนั้นเลย ซัดแมร่งตรงนี้แหละ ลูกลอยตรงสวยมากๆ เพราะบอลเซตกันมาดีมาก ลูกนี้เลย หนำใจค่อดๆ ประเด็นคือ พึ่งผ่านไปแค่ 3 นาทีเองน้ะ ... T_____T

Bayer 04 Leverkusen 0 - 1 Paris Saint Germein

จะบอกว่า ปารีสฯเล่นบอลมีทรงก็คงไม่ใช่ แต่น่าจะเป็นสไตล์ "มีงง" มากกว่า หากใครได้ดูปารีสฯบ่อยจะทราบดีว่า ปารีสฯของโลลองก์ไม่ได้เล่นบอลระบบนัก แต่เน้นพึ่งทักษะเฉพาะตัวของนักเตะอย่างมาก ต่อ-แทง-เปิด ทะลุช่องไปแดนหน้า เดี๋ยวใครสักคนก็ตามขึ้นไปเก็บกินเอง ประมาณนั้น

ครึ่งแรกแม้จะเจอบุกพอควร แต่ปารีสฯก็ทำอะไรเลเวอร์ฯไม่ได้เลย แม้แต่จังหวะเหนี่ยวซึ่งกันและกันยังไม่มี เมื่อปารีสฯ มั่วมา เลเวอร์ฯก็มั่วคืนอะไรแบบนั้น บอลจะถูกตัดที่แดนกลาง แล้วต่างฝ่ายก็ต่างโยนไปโยนมา จนออก พอกลับเข้ามา ก็เคาะไปเคาะมา แย่งไปแย่งมา แล้วก็ออก ประมาณนี้

แต่ึถึงอย่างนั้น ทั้งคู่ก็ต่างฝ่ายต่างทำเกมบุกของตัวเองเต็มที่ เลเวอร์ฯจะเป็นแนวๆวิ่งเพรส ตามจี้ ตามจิก ตามจก แต่พอได้แล้ว ซัดหาย (คือหายไปบนอัฒจันทร์) มันเลยเสียโอกาสอยู่บ่อยๆ ต้องบอกว่าจริงๆเกมไม่ได้เนือยเลย แลกกันทั้งเกม แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝันในการเหนี่ยวหน้าประตูแค่นั้น



และเหมือนต่างฝ่ายต่างรู้ ว่าเกมมันต้องการโมเมนตัม แผงหลังสุดหล่อของเราอย่าง สปาฮิคเลยจัดให้ เหนี่ยวนำ ณ ที่หน้ากรอบ ตอนที่ปารีสฯวิ่งทำเกมขึ้นมาริมเส้น ลาเวซซี่วิ่งไปรอหน้ากรอบ พี่สปาฮิคก็มาเหมือนกันแต่มาช้ากว่า เลยเหนี่ยวแม่มซ้ะ ... ล้มกลิ้งกันไปทั้งคู่ ซึ่งหน้ากรอบขนาดนี้ ก็เจอเหลืองแล้วแจกจุดโทษไปตามระเบียบ

อิบรา ซลาตันเข้ามาสังหาร แล้วก็มิพลาด ลูกเสียบเสาซ้าย แม้เลโนจะพุ่งถูกทาง แต่ช้าไปแล้วต๋อย!! ลูกตุงไปแบบตาข่ายแทบขาด

Bayer 04 Leverkusen 0 - 2 Paris Saint Germein



อิพรี่สปาาาาาาาาาาฮี้คคคคคคคค //ติ่งทีมชาติบอสเนียกรีดร้อง

เพราะกองหลังเลเวอร์ฯจะดันค่อนข้างสูง แล้วจะเป็นสไตล์ "ไม่ทัน" คือ ลงมาไม่เคยทัน เวลาเจอสวน ปารีสฯเลยขึ้นมาเร็วมากๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ปารีสฯต่อบอลกันขึ้นมา กองหลังตามมาสกัดแบบหนุบหนับ มัธตุยดี้แม่มอีกละ ได้บอลแล้วพยายามคลึง ม้วนไปม้วนมา จนกองหลังเลเวอร์ฯเข้ามาเพรสเกือบหมดทุกมุมแล้ว แต่มิคาด หันหลังกลับมา ยังเจอ แสงสว่างอยู่ตรงหน้า ออกญาซลาตัน!! ที่ทีแรกยืนนิ่งเหมือนติด STUN ประมาณว่าดูเชิงอยู่ ว่าน้องมันจะเล่นได้มั้ย ถ้าน้องไม่ได้ ส่งมาให้พี่เถอะ!!

มัธตุยดี้ สบตาซลาตันแว้บนึงอย่างรู้ใจ แล้วแทงบอลออกไปได้ทัน ก่อนที่เลเวอร์ฯจะเข้ามาเสียบได้ ซลาตันได้ลูกตั้งสวยๆ แบบนี้ จะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าพลาดมาบีบคอตูได้เลย

คือ.. ลูกมันส่งย้อนมา พี่แกก็วิ่งซัดเต็มที่
จังหวะ ทิศทาง องศา ความโค้งสปิน ความรุนแรง มันเพอร์เฟ็คไปหมด
ลูกลอยตรงแล้วบิดโค้งลอดใต้คาน เหนือมือเลโนไปนิดนึง เสียบมุมตาข่ายไปแบบสวยสลัดเป็ดเห็ดไก่ มาก



จังหวะที่ลูกออกจากปลายเ้ท้าไป ซลาตันแม่มแทบจะเท้าเอวรอแล้ว พอมันเข้า พี่แกก็ค่อยหันกลับมาวิ่งดีใจ โมเมนท์นั้นมันแบบบ

อิบราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา...
ฮรอลลลลลลลลล สวยงามเหลือเกินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หมดครึ่งแรกไปแบบเกร๋ๆ ในสกอร์ที่น่าจะไล่แฟนบอลไปนอนได้แล้ว

Bayer 04 Leverkusen 0 - 3 Paris Saint Germein



อันที่จริงแฟนบอลน่ากลับบ้านนอนตั้งแต่ครึ่งแรก แต่...อิฉันยังอยู่ค่ะ!!! นี่เราเล่นในบ้านนะคะ จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!!!

//ประหนึ่งเป็นแฟนทีมและนั่งเชียร์อยู่ในสนาม
อันที่จริงแล้วเพราะเราอยากดูฟอร์ม มินซง และอยากดูคีสลิงพอสมควร เลยอยากดูให้จบ และการดูนัดนี้ให้จบก็ไม่เสียใจจริงๆ



ครึ่งหลัง : รูปเกมครึ่งหลังจะว่าไปก็คล้ายครึ่งแรกอยู่พอสมควร คือ ต่างฝ่ายต่างบุกเต็มที่ และเป็นเลเวอร์ฯเองที่เมื่อเริ่มครึ่งหลังมาก็เร่งเกมเร็วอย่างมาก เหมือนตอนพักครึ่งไปรับประทานยาบ้ากันมา วิ่งเหมือนม้าดีดกันทุกคน จนอิฉันกลัวแต่ละท่านแหกโค้ง หรือประสานงากันจนหัวร้างข้างแตกมากกลางสนามมากๆ

เลเวอร์ฯที่เจอเจาะด้วยบอลเคาะทะลุช่องตลอด เริ่มหันมาเล่นบอลโด่ง แต่ประเด็นคือยิ่งเล่นยิ่งไปกันใหญ่ เพราะนอกจากจะเปิดไม่แม่น ยังจ่ายกันขาดๆเกินๆกว่าเดิม จนทรงบอลสิ้นสูญ ครึ่งหลัง เลเวอร์ฯไม่ได้เซทเกมรับเลย และไม่ถึงขั้นทำเกมบุกด้วย (คือบุกไม่ขึ้น) แต่เหมือนเล่นแค่ขัดขวางไม่ได้ปารีสฯเล่นได้แค่นั้นเอง นานๆทีจะฝ่าขึ้นไปได้ ก็ยิงไปดาวเคราะห์น้อยพลูโตที่ 18 ซะอย่างงั้น แววตีตื้นสักลูกยังมองไม่เห็น

แล้วดูเหมือนครึ่งแรก อิพรี่สปา(ตัน)ฮิคจะยังหล่อไม่พอ ครึ่งหลังเลย ขอเหนี่ยวอีกสักรอบ แต่ในรอบนี้ จริงๆเราว่าไม่น่าเกลียดเ่ท่าไหร่ แต่ก็ต้องว่าไปตามสภาพคือ น่าจะโดนเหลือง ประเด็นคือ มี 1 เหลืองอยู่แล้วไง (แกจะสะสมเร้อะ = =) เลยเจอแดงไปตามระเบียบบบบ

นอกจากจะทำให้ทีมเจอจุดโทษ ยังจะเจอไล่ออกจากสนามอีก
ธรรมดาหลังก็เละพออยู่แ้ล้ว ยังมาเหลือแค่ 10 คน ชะตาน่าเศร้ายิ่งนัก
อิ(หร่าน)พรี่สปาเฮ้คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค //ติ่งทีมชาติบอสเนียกรีดร้อง (อีกครั้ง)



ท้ายเกม ปารีสฯเปลี่ยนมัธตุยดี้ออกแล้วส่ง กาบาย ลงมาแทน ณ เพลานั้นอิฉันก็คิดในใจว่า
"โลลองต์ ใจท่านช่างอำมหิตยิ่งนัก" T_____T

กาบายลงมาวิ่งป่วนเกมรับเลเวอร์ฯที่มั่วกันอยู่แล้วได้สักพัก พี่แกก็เริ่มออกลายซ่า คือ ณ จังหวะนั้นคิดว่าไม่มีใครคิดว่าจะเป็นกาบาย

บอลต่อมาจากครึ่งสนาม ไปที่ริมเส้นฝั่งซ้าย ครอสเข้ามาหน้าเกือบไปทางฝั่งขวา ชะงัก 1 จังหวะ ยิงเองไม่ได้ หันมาเจอ เจอกาบาย วิ่งมาเข้าตรงกลางพอดี จ่ายได้ระยะ กาบายเข้าฮอส แปรเน้นๆ ลูกพุ่งตรงไม่มีโค้ง เข้าประตูไปแบบสวยงาม ฟินเว่อร์วีว่าาาาาาา

เป็นอันจบเกม

Bayer 04 Leverkusen 0 - 4 Paris Saint Germein



เกมนี้แม้เลเวอร์ฯ จะถูกปารีสฯถล่ม แต่บอลก็แลกกันค่อนข้างสนุก แต่ทรงบอลจะไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่จังหวะเข้าทำประตู ชวนเจ็บปวดรวดร้าวทุกลูก เลเวอร์ฯสู้สุดใจขาดดิ้น ซึ่งเทียบตามตำแหน่งนักเตะแล้ว สกิลของนักเตะเลเวอร์ฯสู้ฝั่งปารีสฯไม่ได้จริงๆ คือ ถึงจะแพ้ ก็แพ้แบบน่าประทับใจนะ สู้สุดใจแล้วจริงๆ

(แต่สากกันไปนิดนะ..อันที่จริงไม่นิด TT)

< >

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น